ผู้มีอุปการคุณสภากาชาดไทย

หมายถึง บุคคลที่ได้บริจาคเงิน สิ่งของ ที่ดิน ทรัพย์สินอื่น ๆ ในคราวเดียว เพื่อใช้ประโยชน์สำหรับกิจการของสภากาชาดไทย ผู้บริจาคดวงตา อวัยวะ หรือโลหิต ให้สภากาชาดไทย รวมถึงทายาทผู้ได้รับสิทธิ์จากผู้บริจาคตามเกณฑ์ ที่สภากาชาดไทยกำหนดมี 2 ประเภท คือ ผู้มีอุปการคุณที่เป็นบุคคลธรรมดา และผู้มีอุปการคุณที่เป็นนิติบุคคล

ผู้มีอุปการคุณสมทบ หมายถึง บุคคลที่ผู้มีอุปการคุณ ระดับทอง หรือระดับเพชร พิจารณามอบให้

สถานที่ใช้สิทธิด้านการรักษาพยาบาล

สถานที่ใช้สิทธิด้านการรักษาพยาบาล

    • โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
    • โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย
    • สถานีกาชาดต่าง ๆ ของสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์
    • ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูสภากาชาดไทย

โปรดแสดงบัตรผู้มีอุปการคุณต่อเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับการรักษาพยาบาลทุกครั้ง

การขึ้นทะเบียนผู้มีอุปการคุณสภากาชาดไทย

ผู้บริจาคตั้งแต่ 40,000 บาทขึ้นไป จะได้รับสิทธิ์การขึ้นทะเบียนเป็นผู้มีอุปการคุณสภากาชาดไทย ตามระเบียบฯ ปี 2560 และจะได้รับ

1. บัตรผู้มีอุปการคุณเพื่อรับสิทธิผู้มีอุปการคุณในระดับต่าง ๆ ณ สถานพยาบาลของสภากาชาดไทย
2. เข็มเครื่องหมายสมาชิกสภากาชาดไทย
3. ใบอนุโมทนาบัตร

เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการขึ้นทะเบียนผู้มีอุปการคุณสภากาชาดไทยมีดังต่อไปนี้

1. แบบฟอร์มการขึ้นทะเบียนเป็นผู้มีอุปการคุณ ที่กรอกรายละเอียดครบถ้วน อาทิ : ชื่อ-นามสกุล ตามที่ผู้บริจาคประสงค์จะให้ขึ้นทะเบียนฯ : ความเกี่ยวข้องกับผู้บริจาค : วันเดือนปีเกิด ของผู้จะขึ้นทะเบียน : ที่อยู่ และ เบอร์โทรศัพท์ของผู้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้มีอุปการคุณ
2. สำเนาบัตรประชาชน
3. ภาพถ่ายขนาด 1 นิ้ว 1 รูป

ติดต่อขึ้นทะเบียนได้ที่
ฝ่ายหารายได้และกิจกรรม
โทรศัพท์ 0-2256-4028-9 โทรศัพท์ 0-250-0312

สิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2560

1. ผู้บริจาคที่ได้รับสิทธิประโยชน์การเป็นผู้มีอุปการคุณก่อนที่มีการประกาศใช้ระเบียบสภากาชาดไทย ว่าด้วยสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลผู้มีอุปการคุณสภากาชาดไทย ปี 2560 นี้ ให้ได้รับสิทธิเดิม
2. ผู้มีอุปการคุณที่เป็นสมาชิกสามัญ ได้รับสิทธิตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับสภากาชาดไทย สำหรับสมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้รับสิทธิประโยชน์ตามจำนวนเงินที่บริจาคเช่นเดียวกับผู้มีอุปการคุณ
3. กรณีผู้บริจาคที่เป็นนิติบุคคล ให้ผู้แทนนิติบุคคลตามกฎหมายตามข้อบังคับหรือตราสารจัดตั้ง กำหนดบุคคลผู้จะได้สิทธิประโยชน์ตามจำนวนที่กำหนดไว้ตามตารางสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลของผู้มีอุปการคุณที่เป็นนิติบุคคล โดยจะต้องมีหนังสือรับรองเป็นลายลักษณ์อักษร
4. สิทธิประโยชน์ของผู้มีอุปการคุณเป็นสิทธิเฉพาะตัว ไม่อาจโอนหรือจำหน่ายให้แก่ผู้ใดได้ เว้นแต่การโอนสิทธิภายใน 30 วัน ก่อนการใช้สิทธิประโยชน์ในการรักษาพยาบาล นับจากวันบริจาคครบ และได้รับอนุมัติจากเลขาธิการสภากาชาดไทย
5. ผู้มีอุปการคุณที่มีสิทธิ์เบิกค่ารักษาพยาบาลจากต้นสังกัดของตนเองหรือครอบครัว ให้ใช้สิทธิ์ตามใบส่งตัวของต้นสังกัดก่อน ถ้ามีส่วนที่เกินสิทธิ์จึงนำมาลดหย่อนจากสภากาชาดไทย
6. หากต้องการปรับเปลี่ยนระดับขึ้นตามยอดบริจาค จะต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร เมื่อบริจาคครบตามเกณฑ์ที่กำหนด พร้อมยกเลิกสิทธิ์เดิม
7. สิทธิประโยชน์จะหมดไปเมื่อเสียชีวิต
8. สิทธิประโยชน์ในด้านการรักษาพยาบาลดังกล่าวนี้ สภากาชาดไทยขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้มีอุปการคุณหรือผู้มีอุปการะสมทบทราบล่วงหน้า

ค่ารักษาพยาบาลที่ผู้มีอุปการคุณจะได้รับการลดหย่อนจากสถานพยาบาลของสภากาชาดไทย ได้แก่

(1) ค่าห้อง ค่าอาหาร
(2) ค่ารักษาพยาบาล ค่ายา ค่าเวชภัณฑ์
(3) ค่าอวัยวะเทียม และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ตามประกาศกรมบัญชีกลาง
(4) ค่าตรวจวิเคราะห์โรคทางห้องปฏิบัติการ ค่าตรวจรักษาทางรังสีวิทยาที่เป็นไปตามข้อบ่งชี้
(5) ค่าหัตถการ ค่าผ่าตัด ค่าคลอดบุตร ค่าบริการวิสัญญี ค่าบริการเวชศาสตร์ฟื้นฟู และค่าบริการตรวจรักษาอื่น ๆ ที่ไม่อยู่ในข้อยกเว้นที่สภากาชาดไทยกำหนด

ค่ารักษาพยาบาลตามที่ไม่ได้รับการลดหย่อน ได้แก่

(1) การเข้าใช้บริการในคลินิกพิเศษ ค่าพยาบาลพิเศษ
(2) ค่ายาที่อยู่ในบัญชีเฉพาะ ได้แก่ ยาเพื่ิอการเสริมสวย ยาเพื่อการมีบุตรอาหารเสริม วัคซีนป้องกันโรค (ยกเว้น วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า วัคซีนป้องกันบาดทะยัก วัคซีนป้องกันโรคสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะม้ามบกพร่อง) ยารักษาโรคมะเร็งและหรือยาเคมีบำบัดกลุ่ม High Cost
(3) ค่าเวชภัณฑ์ที่อยู่ในบัญชีเฉพาะ ได้แก่ ที่เกี่ยวกับการป้องกันโรคเวชสำอาง เวชภัณฑ์ฝากขาย
(4) ค่ารังสีรักษา ค่าฉายแสง
(5) การตรวจพิเศษที่ส่งไปทำนอกสถานพยาบาลของสภากาชาดไทย
(6) การตรวจวินิจฉัยในบัญชีเฉพาะ เช่น การตรวจPET SCAN เป็นต้น
(7) การรักษาในบัญชีเฉพาะ เช่น การปลูกถ่ายอวัยวะ การรักษากรณีมีบุตรยาก การเสริมความงามและการแปลงเพศ
(8) ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ค่ารักษาพยาบาล เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าไฟฟ้า,น้ำดื่ม